วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

Present Continuous Tense (เพรซ'เซินทฺ - คอนทิน'นิวอัส - เทนซฺ) ปัจจุบันกำลังทำอยู่


Present Continuous Tense      ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูด


-  โดยอาจจะมี Adverbs of Time (คำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา) เข้ามาช่วยในประโยคด้วยก็ได้ เช่น
       Look!  ดูนั่น                         now / right now    ตอนนี้
       at the moment    ตอนนี้          at this moment    ในขณะนี้
       at this time     ในเวลานี้  

 Present Continuous Tense มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ Present Progressive Tense

โครงสร้างประโยคบอกเล่า  Affirmative  sentence (+) :
              SubjectVerb to be (is, am, are) + Verb1 -ing
              ประธาน +  Verb to be (is, am, are) + กริยาช่องที่ 1 เติม ing
 


                                  They   are   talking
                                  (เดยฺ - อาร์ - ทอค'คิง)
                                  พวกเขา        กำลังคุยกัน








Vocabulary (คำศัพท์)     Pronunciation (คำอ่าน)         Meaning (คำแปล)
Present                       (เพรซ'เซินทฺ                    ปัจจุบัน

Continuous                     (คอนทิน'นิวอัส                 ต่อเนื่อง , กำลังทำอยู่

Tense                          (เทนซฺ)                           กาล (เวลา)





ตัวอย่างประโยคบอกเล่า :
  • am studying English.    ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษ
  • We are running.   พวกเรากำลังวิ่ง
  • You are sitting on my book.   คุณกำลังนั่งบนหนังสือของฉัน
  • They are watching television.  พวกเขากำลังดูโทรทัศน์
  • They are singing now.   ตอนนี้ พวกเขากำลังร้องเพลง
  • He is driving a car.   เขากำลังขับรถ
  • She is eating an apple.   หล่อนกำลังกินแอปเปิ้ล
  • It is raining at the moment.   มันกำลังฝนตกขณะนี้ (ฝนกำลังตก)
  • A cat is sleeping in the room.   แมวกำลังนอนหลับในห้อง
  • They are going to school.   พวกเขากำลังไปโรงเรียน
  • She is going to the supermarket at the moment.  หล่อนกำลังไปซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ตอนนี้
  • I am reading the book . (ผมกำลังอ่านหนังสือ)
  • She is swimming in the pool. (หล่อนกำลังว่ายน้ำในสระ)
  • The babies are crying at this time. (เด็กทารกกำลังร้องไห้ในเวลานี้)
  • A man is riding his motorcycle.   (ผู้ชายคนหนึ่งกำลังขี่รถมอเตอร์ไซด์ของเขา)





หลักการเติม ing ท้ายกริยา
1.  กริยาโดยทั่วไป เติม ing ท้ายคำได้ทันที แต่ มีข้อยกเว้น ดังนี้
2.  คำพยางค์เดียวที่มีสระตัวเดียวและมีตัวสะกดตัวเดียว และถ้ามีเป็นคำที่มีมากกว่า 1 พยางค์ ต้องออกเสียงหนัก(stress)ที่พยางค์หลัง ต้องเพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วจึงเติม ing เช่น
       run          ->   running
       sit           ->   sitting
       swim        ->   swimming
       stop         ->   stopping
       begin       ->   beginning
3.  คำที่ลงท้ายด้วย e และไม่ออกเสียงตัว e ให้ตัด e ทิ้งก่อน แล้วจึงเติม ing เช่น
       make        ->   making
       use          ->   using  
4.  คำที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วจึงเติม ing เช่น
       tie           ->   tying
       die          ->   dying

       lie           ->   lying

















Present  Continuous  Tense

Affirmative (+) :      The  giraffe  is  eating  leaves.   
Negative (-) :    The  giraffe  is  not  eating  leaves.

 Yes/No-Question :   
·       Is  the  giraffe  eating  leaves ?    
      - Yes, it is.      /       - No, it isn’t. 

Wh-Question :   
ü What   is  the  giraffe  eating ?  
ü It  is  eating  leaves.   

ü What   is  the  giraffe  doing ?  
ü It  is  eating  leaves.   







วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

What’s the weather like today?




คำถามสภาพอากาศ
What’s the weather like (today)?
วันนี้อากาศเป็นอย่างไร
How’s the weather there?
ที่นั่นอากาศเป็นไงบ้าง

.
.
.

 
It is sunny.
แดดออก
The sun is shining.
แดดกำลังจ้าเลย
It’s a bright sunny day.
เป็นวันที่แดดส่องสดใส
It’s clearing up.
อากาศแจ่มใส
There’s not a cloud in the sky.
ท้องฟ้าไม่มีเมฆ
It’s warm today.
เป็นวันที่อากาศอุ่นๆ
The weather is fine.
อากาศดีแดดออกและฝนไม่ตก
The weather is warm and sunny.
อากาศอุ่นๆ จากแสงแดด

It’s hot.
อากาศร้อน
The weather is very hot.
อากาศร้อนมาก
It’s a hot sunny day.
เป็นวันที่แดดร้อน

It’s very hot.
แดดร้อนมาก

.
.

It’s raining.
ฝนตก
It’s a rainy day.
เป็นวันที่ฝนตก
It’s rainy and wet.
ฝนตกและแฉะ
It's raining hard.
ฝนตกหนัก

The sky is overcast.
ท้องฟ้ามืดครื้ม
It’s thundering.
ฟ้าร้อง
It’s lightning.
ฟ้าแล่บ

.
.


The wind is blowing.
มีลมพัด
It’s windy.
มีลมแรง
There’s a strong wind.
ลมแรงมาก
There’s a windstorm.
มีลมพายุพัดแรงจัด
It’s stormy.
กำลังมีพายุ

It’s cold.
อากาศหนาว
It’s snowing.
หิมะตก
It's snowing heavily.
หิมะตกหนัก

.
.

It’s foggy.
มีหมอกหนา (เกิดจากอากาศหนาว)
It’s misty.
มีหมอกบางๆ (เกิดจากฝนปรอยๆ)
It’s hazy.
หมอกบางๆ (เกิดจากความร้อน)
It’s cloudy.
มีเมฆมาก
It’s humid.
อากาศชื้นๆ

.
.
.

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

Adverbs of Frequency (แอดเวิรบสฺ ออฟ ฟรีเคว็นซี) กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่



Adverbs of Frequency
(แอดเวิรบสฺ  ออฟ  ฟรีเคว็นซี)
กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ 

We use some adverbs to describe how frequently we do an activity.
เราใช้กริยาวิเศษณ์เพื่ออธิบายว่า  เราทำกิจกรรมบ่อยแค่ไหน .
These are called adverbs of frequency .
เหล่านี้เรียกว่ากริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ .

คำกริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ ที่พบบ่อย ๆ มีดังนี้คือ
% Frequency    Adverb of Frequency      คำแปล
100%             always (ออล'เวย์ซฺ)           เสมอ , เป็นประจำสม่ำเสมอ
90%              usually  (ยู'ชวลลี่)                  ปกติ , มักจะ
80%              normally  (นอร์'เมิลลี)        โดยทั่วไป
70%              often (ออฟ'เฟิน)  /           บ่อยๆ
                  frequently (ฟรี'เควินทฺลี)      บ่อยๆ
50%              sometime  (ซัม'ไทมฺ)          บางครั้ง ,  บางคราว
30%              occasionally  (อะเค'ซันนัลลี) บางโอกาส
10%                    seldom (เซล'เดิม)             นาน ๆ ครั้ง
50%              hardly  ever / rarely (แร'ลี)       แทบจะไม่เคย / แทบจะไม่
0%               never   (เนฟ'เวอะ)               ไม่เคย
หลักการใช้ Adverbs of Frequency  ในภาษาอังกฤษ


      Adverbs of Frequency  (แอดเวิรบสฺ  ออฟ  ฟรีเคว็นซี)   เป็นกริยาวิเศษณ์ประเภทหนึ่ง ใช้บ่งบอกความถี่ (frequency) ของเหตุการณ์หรือการกระทำ    ดังนั้น   Adverbs of Frequency  จึงเป็นคำตอบของคำถาม “How often?” หรือ “How frequently?” นั่นเอง

Example  (อิกแซม'เพิล)  ตัวอย่าง :

Question:       How often do you go shopping on Saturday?
                บ่อยแค่ไหนที่คุณจะไปช้อปปิ้งในวันเสาร์?
Answer :         We usually go shopping on Saturday.
               ปกติ พวกเราไปช้อปปิ้งในวันเสาร์
Question :     How frequently is Sakda late?
                ศักดามาสายบ่อยครั้งเท่าไร
Answer :        He is always late.
                เขามาสายเสมอ

I always get up at 6.30 am.
I usually eat lunch at 12.30.
I often watch TV after dinner.
I sometimes read a book in the evening.
I seldom go to bed before 10.00 pm.

I never sleep more than eight hours.